2. งานทดสอบกำลังรับน้ำหนักของเสาเข็ม (Pile Capacity Test)
- Static Pile Load Test
- High Strain Dynamic Pile Load Test
- Bi-Direction Test
Static Pile Load Test
นอกจากนี้การทดสอบ Static Load Test ในเสาเข็มยังสามารถทำการติดตั้งเครื่องมือวัดเพิ่มเติมเช่น Strain Gauge, Fiber Optic และ Extensometer ลงในเสาเข็มทดสอบ และทำการตรวจวัดค่าต่างๆในขณะทำการทดสอบ เพื่อนำมาประเมินหาหน่วยแรงระหว่างเสาเข็มกับมวลดินรอบข้าง เพื่อนำไปสู่การได้ค่าพารามิเตอร์ตามสภาพหน้างานจริงที่สามารถนำไปออกแบบเสาเข็มให้ประหยัดและเหมาะสมกับสภาพพื้นที่และน้ำหนักบรรทุกที่ต้องการโดยยังคงมีค่าสัดส่วนความปลอดภัยเป็นไปตามที่กำหนด
High Strain Dynamic Pile Load Test
ในปัจจุบันการทดสอบกำลังรับน้ำหนักเสาเข็มแบบพลศาสตร์ หรือ Dynamic Load Test (DLT) ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ลักษณะการทดสอบจะใช้ตุ้มน้ำหนักปล่อยกระแทกที่หัวเสาเข็มให้เสาเข็มเกิดการเคลื่อนตัวแรงกระแทกจากตุ้มน้ำหนัก จะทำให้เกิดคลื่นความเค้นอัดเคลื่อนที่ลงในเสาเข็ม ด้วยความเร็วคลื่นที่ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของเสาเข็ม โดยคลื่นความเค้นดังกล่าวจะสะท้อนกลับเมื่อแรงต้านทานจากแรงเสียดทาน, แรงต้านที่ปลายเข็ม, คุณสมบัติของเสาเข็มและพื้นที่หน้าตัดเกิดการเปลี่ยนแปลง คลื่นความเค้นที่เกิดขึ้นในระหว่างการทดสอบจะถูกบันทึกโดย Strain transducers และ Accelerometers ที่ถูกติดตั้งบริเวณหัวเสาเข็ม สัญญาณจากการทดสอบจะถูกแปลงให้อยู่ในรูปของแรงและความเร็ว เพื่อนำไปใช้ในการวิเคราะห์หากำลังรับน้ำหนักทางสถิตศาสตร์ (แรงเสียดทานผิวและแรงต้านทานปลายเข็ม) ด้วยโปรแกรม CAPWAP (Case Pile Wave Analysis Program) การทดสอบแบบพลศาสตร์ เป็นที่ยอมรับทั่วไปและมีมาตรฐานรองรับคือ ASTM D 4945
สำหรับเสาเข็มตอกการทดสอบดังกล่าวนี้สามารถทำได้ใน 2 ลักษณะ คือ Initial Driving Test และ Restrike Test Initial Driving Test เป็นการทดสอบขณะที่ทำการตอกเสาเข็ม หน่วยแรงเค้นสูงสุด (แรงอัดและแรงดึง), Blow Count สภาพความสมบูรณ์ของเสาเข็ม ความสามารถในการรับน้ำหนักของเสาเข็มด้วยวิธี Case Method สามารถตรวจสอบและบันทึกได้ในแต่ละครั้งของการตอกเข็ม การทดสอบแบบนี้จะทำให้ทราบข้อมูลต่างๆ ได้อย่างชัดเจน รวมถึงป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับเสาเข็มในระหว่างการตอก ทำให้สามารถควบคุมงานตอกเสาเข็มให้ได้ตามข้อกำหนด Restrike Test เป็นการทดสอบที่ได้หลังการตอกเสาเข็มไปแล้วระยะเวลาหนึ่ง เพื่อประเมินถึงกำลังรับน้ำหนักบรรทุกของเสาเข็มช่วงเวลาที่ใช้งาน โดยปกติกำลังรับน้ำหนักของเสาเข็มจะเพิ่มขึ้นตาม Soil set-up หรือ ระยะเวลาหลังการตอกเข็ม ระยะเวลาดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับลักษณะและคุณสมบัติของดิน